อุปกรณ์-วัตถุดิบ
1.เครื่องปั่นน้ำผลไม้
2.ผ้าขาวบาง
3.ใบย่านาง 10 ใบ
4.ใบเตยหอม 5 ใบ
5.น้ำเปล่า 2 ลิตร
วิธีการทำ
1.ล้างใบย่านางและใบเตยให้สะอาด
2.นำใบย่านาง ใบเตย และน้ำใส่ลงไปปั่นในเครื่องปั่น
3.นำน้ำที่ปั่นมากรองด้วยผ้าขาวบาง
วิธีดื่ม ให้ดื่มแทนน้ำเปล่า เมื่อดื่มไม่หมดให้นำไปแช่ตู้เย็นไว้
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
น้ำผัก-ผลไม้ต้านโรค
น้ำขึ้นฉ่าย( Celery) 
ขึ้นฉ่าย เป็นผักที่มีสายพันธุ์มาจากประเทศจีน มีกลิ่นหอมทั้งต้น ลำต้นกลวง สูงประมาณ 30 -50 ซม. มีสรรพคุณทางยาและทางอาหารมากมาย
* ต้น ใช้ลดความดันโลหิต รักษานิ่ว มีปัสสาวะเป็นเลือด และฝีฝักบัว เจริญอาหาร
* เมล็ด ใช้ขับลมและเป็นยาระงับอาการปวดบวมน้ำ
* ราก ใช้รักษาอาการปวดตามข้อ เกาต์ ใช้เป็นยาบำรุงและขับปัสสาวะ
นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายยังมีสรรพคุณในการต่อต้านการอักเสบ และช่วยต้านมะเร็ง
ส่วนผสม
* ขึ้นฉ่ายหั่น 1 ถ้วย
* น้ำผึ้ง 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
วิธีทำ นำขึ้นฉ่ายสดมาล้างน้ำให้สะอาดโดยให้น้ำไหลผ่านประมาณ 10 - 15 นาที จากนั้นนำมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เติมน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ถ้วย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เมื่อได้น้ำ
ขึ้นฉ่ายแล้ว เติมน้ำผึ้ง 1 - 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ควรดื่มทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียคุณค่าของวิตามิน
** น้ำขึ้นฉ่ายแก้วนี้ มีสารที่ช่วยในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
คุณค่าทางอาหารของขึ้นฉ่าย
* โพแทสเซียม ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท บรรเทา อาการตะคริว ลดความดันโลหิตสูง
* เบต้าแคโรทีน ช่วยแก้กระหายน้ำ ต้านมะเร็ง การทำงานของระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก บำรุงโลหิต ระบบประสาท และระบบสายตา
* โฟเลต ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคโลหิตจางป้องกันโรคมะเร็งคอมดลูก
* แคโรทีนอยด์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันอาการตาบอดในผู้สูงอายุ
* วิตามินซี ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กทำให้แผลหายเร็ว ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
* เส้นใยอาหาร ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย
-----------------------------------------
น้ำเห็ดหลินจือ (Ling Zhi) 
เห็ดหลินจือเป็นยาจีน (Chinese traditional medicine) ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้ เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน มีพลังมหัศจรรย์ ช่วยบำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ มากมาย ปลอดภัยไม่มีพิษใด ๆ ต่อ ร่างกาย
ในสมัยโบราณกล่าวกันว่า เห็ดหลินจือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นให้พลังชีวิตมากขึ้น ใช้บำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีกำลัง ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ขัดเจนดีขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสีหน้าแจ่มใส ชะลอความแก่ ส่วนสรรพคุณอื่นๆ ที่ได้รวบรวมไว้ได้แก่ รักษาและต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ ปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ภาวะมีบุตรยาก การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท ลมบ้าหมู เส้นเลือดอุดตันในสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ ปวดเมื่อย ปวดข้อ โรคเกาต์ โรคเอสแอลอี เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ บำรุงสายตา แต่ในปัจจุบันนี้เห็ดหลินจือได้รับการวิจัยศึกษาแล้วพบว่าสามารถบรรเทาอาการปวดโรคประสาท โรคตับแข็ง โรคไตอักเสบ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
ส่วนผสม
* เห็ดหลินจือแห้ง 8 - 10 ชิ้น
* น้ำสะอาด 2 ลิตร
วิธีทำ นำเห็ดหลินจือแห้งและน้ำสะอาดใส่ลงในหม้อต้มจนเดือด แล้วหรี่ไฟลงให้น้ำเดือดต่อไป ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ตัวยาในเห็ดหลินจือออกมาให้มากที่สุด แล้วจึงยกลง ควรดื่มน้ำสกัดจากเห็ดที่มีอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิร่างกาย โดยสามารถใช้ดื่มแทนน้ำได้ทั้งวัน เพื่อสุขภาพที่ดีปราศจากโรค
**น้ำเห็ดหลินจือแก้วนี้ มีสารที่ช่วยป้องกันและสามารถสลายเซลล์มะเร็งในร่างกายให้หมดไปได้
องค์ประกอบทางเคมีของเห็ดหลินจือ มีดังนี้
* สารโพลีแซคคาไรค์ส เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันภายในร่างกายสลายและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกมะเร็ง บำรุงหัวใจ ต้านการอักเสบ
* สารออร์แกนิคเจอร์มาเนียม ชะลอความแก่ ส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายช่วยในการฟอกเลือด กำจัดอนุมูลอิสระในเซลล์ ป้องกันโรคเหน็บชา
* สารนิวคลีโอไทค์ ช่วยรักษาโรคมะเร็ง ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในเซลล์ส่งเสริมระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยระบบการทำงานของไต ชะลอความแก่ ช่วยบรรเทาอาการปวด
* สารไตรเทอร์ปินอยส์ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยระบบการย่อย ส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ข่ยลดคอเลสเตอรอล และไขมัน ช่วยล้างพิษในตับ
* กรดอะมิโนมากมาย ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคกระดูกพรุน สมานแผลให้หายเร็ว ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด บำรุงสมองให้ความจำดีขึ้น บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
* กรดแกมมาลินโนเลนิก ระงับอาการปวดประจำเดือน ปวดไมเกรนช่วยบรรเทาอาการผื่นคันที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ลดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก
------------------------------------------
น้ำมะระ (Balsampear)
มะระ เป็นผักสมุนไพรที่มีผลใหญ่ ยาว ผิวขรุขระ สีเขียวอ่อน มีรสขม มะระมีสรรพคุณทางยาและอาหาร ดังนี้
* ใบอ่อน แก้โรคปวดตามกระดูก โรคปวดตามข้อมือ ข้อเท้า ตามหัวเข่า จะมีอาการปวดบวม และยังแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ธาตุพิการ บำรุงไต
* เมล็ด แก้ฆ่าพยาธิในลำใส้และกระเพาะ เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ไข้ถอนพิษต่าง ๆ ให้ระบายออกทางปัสสาวะและอุจจาระ แก้ปวดเมื่อย ขับระดูเสียในสตรี บำรุงน้ำดี บำรุงตับและม้ามให้ปกติ ขับพยาธิตัวกลม
* ยอดมะระ แก้อาการเจ็บคอ ดับพิษร้อน แก้ไข้ และแก้ข้อบวม เข่าบวม ข้อนิ้วปวด ช่วยให้มีระดูปกติ บำรุงมดลูกให้ปกติ บำรุงเลือดให้ปกติ
* ใบแก่และเถา ต้มน้ำ ดื่มกินแทนน้ำหรือน้ำชาได้จะช่วยขับพยาธิในลำไส้และกระเพาะ แก้กระหายน้ำ ช่วยให้เจริญอาหาร และช่วยระบบขับถ่ายให้สะดวกสบาย
* รากต้มดื่มแก้ไข้ รักษาโรคริดสีดวงทวาร
* ผล ช่วยลดการเกิดต้อกระจกจากเบาหวาน ช่วยเจริญอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ แก้อาการข้ออักเสบ
ส่วนผสม
* เนื้อมะระขี้นก 3 ลูก หรือเนื้อมะระผลใหญ่หั่นเป็นชิ้น 4 - 5 ชิ้น
* เกลือป่นเล็กน้อย
* น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ นำมะระขี้นกหรือมะระผลใหญ่มาล้างน้ำให้สะอาด ผ่าซีก และเอาเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นยาวตามขวางของผลมะระ เอามะระขี้นกหรือมะระผลใหญ่ที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว ใส่เครื่องคั้นน้ำแผลไม้แยกกาก แยกน้ำ เมื่อได้น้ำมะระแล้ว รินใส่แก้วเติมเกลือเล็กน้อย เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ควรดื่มทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียคุณค่าของวิตามิน รสชาติอาจจะขมสักหน่อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่ามากมาย
** น้ำมะระแก้วนี้ มีสารต้านมะเร็งและวิตามินที่สามารถยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง
คุณค่าทางอาหารของมะระ
* วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น รักษาสุขภาพผิว รักษาสิว ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ
* วิตามินซี ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้แผลหายเร็วป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
* โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต
* ไขมัน ช่วยในการดูดซึมวิตามินให้กับร่างกาย
* เส้นใยอาหาร ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย
* แคลเซียม ช่วยดูดซึมวิตามินดีทำให้กระดูกแข็งแรง
* ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
* เหล็ก ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ป้องกันโรคโลหิตจาง ลดการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
----------------------------------------
น้ำแครอต(Carrot)
แครอต เป็นผักที่เกิดในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง สีของหัวแครอตมีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วง ส่วนแครอตสีส้มที่รับประทานกันทั่วไป ในทางยาพบว่าเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของชาวอเมริกันใช้เป็นยาครอบจักรวาล รักษาได้หลายโรค เช่น แก้โรคประสาท โรคผิวหนัง หืดหอบ และช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอล
แครอตอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ มีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนังและสายตา แครอตเป็นผักที่ได้ชื่อว่าช่วยป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในปอด เพราะเบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้แครอตยังช่วยรักษาโรคตับ และมีประโยชน์ต่อคนเป็นดีซ่าน ช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยปกป้องอันตรายจากรังสี อัลตราไวโอเลตได้อีกด้วย
* แครอต 1 หัว
**น้ำแครอตแก้วนี้ มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยต่อต้านและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ และมะเร็งปอด
คุณค่าทางอาหารของแครอต
* วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น รักษาสุขภาพผิว รักษาสิว ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ
* วิตามินบี 1 ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยลดความอยากน้ำตาล บำรุงระบบประสาท
* วิตามินบี 2 ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงผิวพรรณ เส้มผม และเล็บป้องกันตะคริว
* เส้นใยอาหาร ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย
* ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
* แคลเซียม ช่วยดูดซึมวิตามินดีทำให้กระดูกแข็งแรง
* โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต
* เหล็ก ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ป้องกันโรคโลหิตจาง ลดการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)